ระบบสารสนเทศงานวิจัย สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่
Research Information System(RIS)

รูปแบบการพัฒนาทักษะการรู้ดิจิทัลของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่เพื่อพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้


ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สุทธินันท์ ชื่นชม

คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์

เลขทะเบียน :

1285-63-HUSO-CMRU

บทคัดย่อ

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาระดับการรู้ดิจิทัลของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏ เชียงใหม่ 2) เพื่อศึกษารูปแบบการพัฒนาทักษะการรู้ดิจิทัลของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏ เชียงใหม่ และ 3) เพื่อศึกษาผลการใช้รูปแบบการพัฒนาทักษะการรู้ดิจิทัลของนักศึกษามหาวิทยาลัย ราชภัฏเชียงใหม่ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ แบบทดสอบระดับการร ู้ดิจิทัล วิเคราะห์ข้อมูลโดยการแจก แจงความถี่ หาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย (Χ)ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) t-test และ f-test

ผลการวิจัยพบว่า ในภาพรวมนักศึกษาส่วนใหญ่มีระดับการรู้ดิจิทัลในระดับมาก องค์ประกอบที่ มีระดับการรู้ดิจิทัลในระดับมากและค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ องค์ประกอบที่ 4 ทักษะการตระหนักรู้ทั้ง 4  องค์ประกอบ และ 12 ตัวบ่งชี้อยู่ในระดับปานกลาง ซึ่งอยู่ในระดับที่ควรได้รับการส่งเสริมพัฒนาให้สูง มากยิ่งขึ้นในทุกองค์ประกอบ รูปแบบการพัฒนาทักษะการรู้ดิจิทัลของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏ เชียงใหม่ประกอบด้วย 4 องค์ประกอบ ได้แก่ กระบวนการในการพัฒนาทักษะการรู้ดิจิทัลของ นักศึกษา สื่อการเรียนรู้เพื่อการพัฒนาทักษะการรู้ดิจิทัล ช่องทางการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการรู้ ดิจิทัล สภาพแวดล้อมการเรียนรู้ในมหาวิทยาลัย จากการด าเนินงานตามรูปแบบการพัฒนาทักษะการ รู้ดิจิทัลของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ พบว่า การรู้ดิจิทัลของนักศึกษาก่อนและหลังเรียน ในทุกองค์ประกอบแตกต่างกันอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติ โดยการรู้ดิจิทัลหลังเรียนมีค่าเฉลี่ยมากกว่า  การรู้ดิจิทัลก่อนเรียน

Abstract

This research aimed 1) to study the digital literacy level of Chiang Mai Rajabhat  University students, 2) to study the digital literacy skill development model for Chiang Mai  Rajabhat University students, and 3) to study the implication of the digital literacy skill  development model. The researchinstruments were Digital literacy level test. Data were  analyzed by frequency, percentage, mean (Χ), standard deviation (S.D.), t-test, and f-test.

The research results revealed that overall most students have a high level of  digital literacy. Cognitive skills was at the moderate level with the highest mean (x̅ = 4.21). All of 4 components and 12 indicators of digital literacy was at the moderate  level, which should be improved. The digital literacy skill development model of  Chiang Mai Rajabhat University students consists of 4 factors; a process for developing  students' digital literacy skills, learning materials for developing digital literacy skills,  learning channel for developing digital literacy skills, and university learning  environment. From the implementation of the digital literacy skill development model  of students at Chiang Mai Rajabhat University, level of digital literacy of students  posttest and pretest were statistically significant. The posttest digital literacy is higher  than the pretest digital literacy.

ไฟล์งานวิจัย

Abstract.pdf

บทที่1.pdf

บทที่2.pdf

บทที่3.pdf

บทที่4update.pdf

บทที่5update.pdf

บรรณานุกรม.pdf

ปก.pdf

ข้อมูลการตีพิมพ์

ชื่อบทความ :

แหล่งที่ตีพิมพ์ :วารสารสารสนเทศศาสตร์ ปีที่ 39 ฉบับที่ 2 (เมษายน - มิถุนายน 2564) หน้า 16 - 33

ปีที่ตีพิมพ์ :2563

37 09 เม.ย. 2563

กองทุนวิจัย มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่

202 ถ.ช้างเผือก ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 503000

http://www.cmru.ac.th

053-88-5555

งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง

2022 สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่