ระบบสารสนเทศงานวิจัย สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่
Research Information System(RIS)

ความสัมพันธ์เชิงสาเหตุของปัจจัยการสร้างสรรค์นวัตกรรมจากงานประจำที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของบุคลากรสายสนับสนุน มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่


อาจารย์dara asd

วิทยาลัยนานาชาติ

เลขทะเบียน :

1327-63-IC-CMRU

บทคัดย่อ

การศึกษาวิจัยเรื่องความสัมพันธ์เชิงสาเหตุปัจจัยการสร้างสรรค์นวัตกรรมจากงานประจำ
ที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของบุคลากรสายสนับสนุน มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1. เพื่อพัฒนาโมเดลความสัมพันธ์เชิงสาเหตุระหว่างปัจจัยการสร้างสรรค์นวัตกรรมจากงานประจำที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของบุคลากรสายสนับสนุนมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ 2. เพื่อตรวจสอบความสอดคล้องของโมเดลความสัมพันธ์เชิงสาเหตุระหว่างปัจจัยการสร้างสรรค์นวัตกรรมจากงานประจำที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของบุคลากรสายสนับสนุนมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ผู้วิจัยได้ทำการศึกษาแนวคิดทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับการวิจัย ดังนี้ แนวคิดทฤษฎีนวัตกรรม แนวคิดทฤษฎีประสิทธิภาพการปฏิบัติงานและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง กลุ่มตัวอย่าง คือ บุคลากรสายสนับสนุนวิชาการมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ผู้วิจัยกำหนดกลุ่มตัวอย่างจากสูตรการคำนวณกลุ่มตัวอย่างที่กำหนดจำนวน 20 เท่าต่อ 1 ตัวแปรในการวิจัยนี้มีตัวแปรที่ศึกษา 6 ตัวแปร จึงควรมีกลุ่มตัวอย่างจำนวน 300 คน และใช้วิธีการสุ่มกลุ่มตัวอย่างแบบเป็นสัดส่วน ตามประเภทบุคคลากรสายสนับสนุนจำแนกตามหน่วยงาน โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือการศึกษา ตัวแปรที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วย ตัวแปรต้นคือ 1. พฤติกรรมการสร้างสรรค์นวัตกรรมของบุคลากร 2. ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลง 3. บรรยากาศการสร้างนวัตกรรม 4. วัฒนธรรมการเรียนรู้  และ 5. การสนับสนุนนวัตกรรมขององค์กร 6. การสร้างสรรค์นวัตกรรม ตัวแปรตามคือประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน การวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้นใช้ค่าสถิติพื้นฐาน ได้แก่ ค่าเฉลี่ยเลขคณิต ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรสังเกตได้ของความสัมพันธ์เชิงสาเหตุ ใช้ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สันเพื่อให้ได้เมตริกซ์สหสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรสังเกตได้ โดยใช้โปรแกรม SPSS เพื่อใช้เป็นข้อมูลสำหรับการวิเคราะห์โมเดล โดยใช้สถิติ Path Analysis และใช้โปรแกรมสำเร็จรูปในการวิเคราะห์

               ผลการศึกษาพบว่า วัฒนธรรมการเรียนรู้ ส่งผลต่อการสร้างสรรค์นวัตกรรมมากที่สุดรองลงมาคือ พฤติกรรมการสร้างสรรค์นวัตกรรมของบุคลากร ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลง และ
การสนับสนุนนวัตกรรมขององค์กร ส่งผลทางตรงต่อการสร้างสรรค์นวัตกรรมตามลำดับ และ
ส่งผลทางอ้อมต่อประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน

Abstract

This research is to study the causal relationship of innovation factors from routine work affecting the performance of support personnel of Chiang Mai Rajabhat University. Objectives are 1. To develop a causal relationship model between routine innovation factors affecting performance of support personnel of Chiang Mai Rajabhat University. 2. To examine the coherence of the causal relationship model between innovation factors from the routine work that affects the efficiency of the work of the support personnel of Chiang Mai Rajabhat University. The researcher has studied the concepts and theories related to the research as follows: innovation theory concept concepts, theories, operational efficiency and related research.  The sample group was academic support personnel of Chiang Mai Rajabhat University. The researcher determined the sample group from the formula for calculating the given sample group 20 times per 1 variable. In this study, there were 6 variables studied. Therefore, there should be a sample of 300people. The researcher used a proportional random sampling according to the type of support personnel classified by departments and used a questionnaire as an educational tool. The initial variable is 1. Innovation creation behavior of personnel 2. Transformational leadership 3. Innovation creating atmosphere 4. Learning culture 5. Corporate innovation support 6. Innovation creation.  The dependent variable is operational efficiency.The preliminary data analysis used basic statistical values such as mean, standard deviation. The correlation coefficient between observable variables of causal relationship was analyzed using Pearson's correlation coefficient using SPSS program as data for model analysis. The researcher uses statistics, path analysis, and uses a software package for analysis. The results showed that learning culture affects innovation the most, followed by the innovation behavior of personnel, transformational leadership, and lastly is the support of corporate innovation. All factors directly affect innovation and indirectly affect operational efficiency.

ไฟล์งานวิจัย

เล่มสมบูรณ์ อ.บัว ลายน้ำ.pdf

ข้อมูลการตีพิมพ์

ชื่อบทความ :

แหล่งที่ตีพิมพ์ :วารสารสถาบันวิจัยญาณสังวร ปีที่ 14 ฉบับที่ 2 (กรกรกฏาคม-ธันวาคม 2566)

ปีที่ตีพิมพ์ :2566

52 01 พ.ค. 2563

กองทุนวิจัย มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่

202 ถ.ช้างเผือก ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 503000

http://www.cmru.ac.th

053-88-5555

งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง

2022 สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่