
ระบบสารสนเทศงานวิจัย สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่
Research Information System(RIS)
รูปแบบการบริหารจัดการบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ตามเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษา พ.ศ. 2558
นางสาววีรนุช ดรุณสนธยา
บัณฑิตวิทยาลัย
คำสำคัญ :
เลขทะเบียน :
1336-63-grad-CMRU
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาและวิเคราะห์สภาพการบริหารจัดการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ตามเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษา พ.ศ. 2558 และ 2) พัฒนาและเสนอรูปแบบการบริหารจัดการบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ตามเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษา พ.ศ. 2558 กลุ่มตัวอย่าง คือ ประธานหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษา และบุคลากรประสานงานระดับบัณฑิตศึกษา จำนวน 21 คน เครื่องมือ
ที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบบันทึกข้อมูล แบบสอบถาม และประเด็นคำถามในการสนทนากลุ่ม วิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณด้วยค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพด้วยการวิเคราะห์เชิงเนื้อหาแบบลงข้อสรุป
ผลการวิจัยพบว่า
1. ปีการศึกษา 2559–2563 สภาพการบริหารจัดการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ตามเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษา พ.ศ. 2558
ทั้ง 5 ด้าน ประกอบด้วย ด้านการกำกับมาตรฐาน ด้านหลักสูตรและการเรียนการสอน ด้านการวิจัย
ด้านอาจารย์ และด้านนักศึกษาและบัณฑิต มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก (= 4.29, S.D. = 0.65)
2. รูปแบบการบริหารจัดการบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ตามเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษา พ.ศ. 2558 มีความเหมาะสมและนำไปใช้ได้ มีค่าเฉลี่ย
อยู่ในระดับมาก (= 4.36, S.D. = 0.51) ด้านการกำกับมาตรฐาน ควรมีการสนับสนุนอาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยในการศึกษาต่อระดับปริญญาเอก เพื่อเข้ามาประจำในหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษา และส่งเสริมอาจารย์ให้เข้าสู่ตำแหน่งทางวิชาการ ด้านหลักสูตรและการเรียน
การสอน หลักสูตรกำหนดทิศทางการจัดการเรียนการสอนที่เป็นอัตลักษณ์ มุ่งเน้นความเป็นตัวตนและวิชาชีพของหลักสูตร และการพัฒนาหลักสูตรให้วิชาชีพของหลักสูตร และการพัฒนาหลักสูตรให้มีความทันสมัย มีการบูรณาการศาสตร์จากหลากหลายสาขา และตามความต้องการของตลาดแรงงาน ด้านการวิจัย ควรกำหนดให้นักศึกษาตีพิมพ์และเผยแพร่ผลงานวิจัยในระดับนานาชาติ เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษา ด้านอาจารย์ ควรจัดหาแหล่งทุนสนับสนุนการวิจัย เพื่อพัฒนาศักยภาพอาจารย์
ให้มีผลงานวิจัย และผลงานทางวิชาการเพิ่มมากขึ้น และด้านนักศึกษาและบัณฑิต ควรจัดทำระบบติดตามความก้าวหน้าการจัดทำวิทยานิพนธ์ของนักศึกษาด้วยระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ
Abstract
The objectives of this research were to examine and analyze the contexts of the graduate administrative management of Chiang Mai Rajabhat University based on the 2015 graduate curriculum criteria, and to develop and propose an appropriate model for graduate administrative management. The sample group consisted of
21 program chairs and graduate coordinators. The research instruments comprised a data record, a questionnaire, and questions for group discussion. The quantitative data were statistically analyzed for frequency, percentage, mean, and standard deviation. The content analysis was used to analyze the qualitative data for their conclusions.
The research results are summarized as follows.
1. The graduate administrative management contexts from the academic years 2016–2020 were categorized into five aspects: standard control, curriculum and instruction, research, instructors, and students and graduates, with the mean at a high level (

= 4.29, S.D. = 0.65).
2. The proposed model is found to be appropriate and practical with the mean at a high level (= 4.36, S.D. = 0.51). For standard control, instructors should be encouraged to further their studies at the doctoral level in order to be qualified for program chairs and members. They should also be encouraged to have academic professorship. Regarding curriculum and instruction, learning management should be unique with a focus on the identity and professionalism of each program. Curriculum development should be professional, up–to–date and interdisciplinary in accordance with labor market needs. As for research, graduates should be required to have their research articles published at an international level in order to raise the quality of education. Concerning instructors, they should be provided adequate grants to conduct research studies in an attempt to improve their qualifications and elevate their academic works. With regard to students and graduates, progress of their theses should be monitored with the use of an information technology system.
ไฟล์งานวิจัย
รายงานการวิจัยฉบับสมบูรณ์ วีรนุช ดรุณสนธยา.pdf
ข้อมูลการตีพิมพ์
ชื่อบทความ :
แหล่งที่ตีพิมพ์ :การประชุมวิชาการเสนอผลงานวิจัย ระดับบัณฑิตศึกษาแห่งชาติ ครั้งที่ 53 "การจัดการเรียนรู้ การวิจัยและนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน" วันที่ 18 ธันวาคม 2564
ปีที่ตีพิมพ์ :2564
23 22 เม.ย. 2563

กองทุนวิจัย มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่
202 ถ.ช้างเผือก ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 503000
053-88-5555