
ระบบสารสนเทศงานวิจัย สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่
Research Information System(RIS)
กลยุทธ์การพัฒนาประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน การฝึกประสบการณ์วิชาชีพของคณะมนุษยศาสตร์ และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่
นายภาสกร แห่งศักดิ์ศรี
คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
คำสำคัญ :
เลขทะเบียน :
935-60-HUSO-NRCT
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นงานวิจัยเชิงสารวจ มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินประสิทธิภาพการปฏิบัติงานการฝึกประสบการณ์วิชาชีพ ศึกษาปัญหาและอุปสรรคการปฏิบัติงานและเพื่อค้นหากลยุทธ์การพัฒนาประสิทธิภาพการปฏิบัติงานการฝึกประสบการณ์วิชาชีพของคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยคือ 1) นักศึกษาที่ลงทะเบียนเรียนรายวิชาฝึกประสบการณ์วิชาชีพ จานวน 377 คน 2) อาจารย์นิเทศก์ จานวน 67 คน และ 3) ผู้บริหารหน่วยงานหรือหัวหน้างานที่ได้รับมอบหมายจากผู้บริหารหน่วยงาน จานวน 138 คน โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บข้อมูล สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงมาตรฐาน ผลการศึกษาพบว่า ส่วนใหญ่นักศึกษาออกฝึกงานหน่วยงานราชการอื่นที่ไม่ใช่สถานที่ศึกษา สถานที่ตั้งของสถานที่ฝึกงานส่วนใหญ่อยู่อาเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ การได้มาของสถานที่ฝึกประสบการณ์วิชาชีพนักศึกษาติดต่อเอง สาเหตุที่เลือกสถานฝึกประสบการณ์วิชาชีพเพราะคาดว่าจะได้ฝึกประสบการณ์ตรงตามสาขาวิชาที่เรียน ลักษณะงานที่ได้รับมอบหมายให้นักศึกษาทาขณะฝึกประสบการณ์วิชาชีพ เป็นงานด้านธุรการ งานที่ได้รับมอบหมายมีทั้งตรงและไม่ตรงกับสาขาวิชาที่เรียน นักศึกษาส่วนใหญ่ได้รับสวัสดิการจากสถานฝึกประสบการณ์วิชาชีพเป็นอาหารกลางวัน สถานที่ฝึกขณะฝึกประสบการณ์วิชาชีพส่วนใหญ่พักบ้านหรือหอพักที่นักศึกษาเช่าอยู่เอง การเดินทางที่พักไปสถานที่ฝึกประสบการณ์วิชาชีพส่วนใหญ่เดินทางโดยรถจักรยานยนต์ นักศึกษามีความพึงพอใจต่อการฝึกประสบการณ์วิชาชีพ อยู่ในระดับมาก ปัญหาในการฝึกประสบการณ์วิชาชีพ พบว่า ขาดความรู้เกี่ยวกับสถานที่ฝึกประสบการณ์วิชาชีพมากที่สุด และพบปัญหาในขณะฝึกประสบการณ์วิชาชีพมากที่สุดคือความรู้ความสามารถที่มีอยู่ไม่เพียงพอต่อการทางาน ข้อเสนอแนะแนวทางในการปรับปรุงการจัดการฝึกประสบการณ์วิชาชีพ ควรเลือกสถานที่ฝึกประสบการณ์วิชาชีพควรพิจารณาจากตรงกับสาขาวิชาที่เรียนและโอกาสในการได้งานมากที่สุด อาจารย์นิเทศส่วนใหญ่มีวุฒิสูงสุดระดับปริญญาโท มีประสบการณ์ในการสอนระดับอุดมศึกษา ส่วนใหญ่มากว่า 11 ปีขึ้นไป ประสบการณ์ในการนิเทศฝึกงานศึกษาส่วนใหญ่มากกว่า 11 ปีขึ้นไป ปริมานงานที่นักศึกษาได้รับมอบหมายให้ทาขณะฝึกประสบการณ์วิชา มีความพอดี อาจารย์นิเทศตอบแบบสอบถาม ได้มีข้อเสนอแนะในการประสานงานระหว่างมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่กับสถานที่ฝึกประสบการณ์วิชาชีพว่าควรมีการจัดสัมมนาก่อนออกฝึกประสบการณ์ ระหว่างสถานประกอบการกับคณะ สาเหตุที่ผู้บริหารหน่วยงานรับนักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพ เพราะต้องการคนมาช่วยพนักงานในหน่วยงาน และเคยรับนักศึกษารุ่นก่อนนี้แล้วพอใจ ผู้บริหารหน่วยงานมีความประสงค์จะรับนักศึกษารุ่นต่อไปเพื่อฝึกประสบการณ์วิชาชีพ ผู้บริหารหน่วยงานมีความพึงพอใจในการฝึกประสบการณ์วิชาชีพของนักศึกษาอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ย 4.04 ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม การประเมินผลการฝึกประสบการณ์วิชาชีพคณะ ควรจัดทาระบบ ติดตามและประเมินผลการฝึกประสบการณ์วิชาชีพแบบออนไลน์เพื่อลดปัญหาในการติดตามการจัดส่งแบบประเมินผลการฝึกประสบการณ์วิชาชีพของนักศึกษา
Abstract
This survey research aimed to evaluate the efficiency of the field experience work, study the problems and obstacles in work, and explore the strategies for developing the efficiency of the field experience work at the faculty of humanities and social sciences, Chiang Mai Rajabhat University in the second semester of 2016. The example groups in this research were 1) 377 students attending the field experience course, 2) 67 university supervisors, and 3) 138 organizations’ administrators or chiefs. The study was collected by using questionnaires. Statistics used in the research were percentage, mean, and standard deviation. The result provided that the majority of students attended other government agencies, which was not the educational agencies, for their field experience work. Mostly, their work places were located in Muang district, Chiang Mai. Besides, the students contacted the place for work by themselves. Moreover, the reason why they chose the particular places for work was they wanted work experiences related to what they had learnt in the university. There were various kinds of the responsibilities at work, such as vocation and general affairs. Most organizations provided lunch for the students. For accommodation during internship, some of them stayed at home and some stayed at dormitory. Mostly, they went to work by motorcycle. It was found that the students were highly satisfied with the field experience work. The problems found in field experience work was the students still lacked some knowledges in working. Thus, they should choose the field experience work that related to their major study and easy to find occupations. The university advisors hold master degree and had many experiences in teaching in the university. Most of them had taught more than 11 years. The students’ workload from their teachers was normal. The students should be trained including basic computer, modesty, and manner in workplace. There should be a list of qualified organizations for students to choose and contact easily. For another advice, the university should provide pre-seminar before field experience work between organizations and the faculty. The administrators were highly satisfied with the students, average at 4.04. In addition, evaluation for the field experience work should have online organization system. It helped decrease problems in collecting evaluation paper.
ไฟล์งานวิจัย
อยู่ในระหว่างการปรับปรุงเนื้อหา2146 30 พ.ค. 2561

สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.)
196 Paholyotin Rd., Chatuchak, Bangkok 10900
0-2561-2445